วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

บทที่ 4. E-COMMERCE

ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONIC BUSINESS)
          ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Business)คือกระบวนการดำเนินธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีเครือข่ายที่เรียกว่าองค์การเครือข่ายร่วม (Internetworked Network) ไ ม่ว่าจะเป็นการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce) การติดต่อสื่อสารและการทำงานร่วมกัน หรือแม้แต่ระบบธุรกิจภายในองค์กร

e-Service
     ❖e-Commerce
     ❖e-Business
     ❖e-System

การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONIC COMMERCE)
          พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ใ นทุกช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไ ม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โ ทรทัศน์ วิทยุหรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โ ดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร โ ดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่นทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้า เป็นต้น จึงลดข้อจำกัดของระยะทาง และเวลาลงได้

การประยุกต์ใช้ (E-commerce Application)
     ❖ การค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Retailing)
     ❖ การประมูลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Auctions)
     ❖ การบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Service)
     ❖ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government)
     ❖ การพาณิชย์ผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่
         (M-Commerce : Mobile Commerce)

โครงสร้างพื้นฐาน (E-Commerce Infrastructure)
     ❖ องค์ประกอบหลักสำคัญด้านเทคโนโลยีพื้นฐาน ที่จะนำมาใช้เพื่อการพัฒนาระบบ
     พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนได้แก่
     ❖ระบบเครือข่าย (Network)
     ❖ช่องทางการติดต่อสื่อสาร (Chanel Of Communication)
     ❖การจัดรูปแบบและการเผยแพร่เนื้อหา (Format & Content Publishing)
     ❖การรักษาความปลอดภัย (Security)

การสนับสนุน (E-Commerce Supporting)
     1. การพัฒนาระบบงาน E-Commerce Application Development
     2. การวางแผนกลยุทธ์ E-Commerce Strategy
     3. กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ E-Commerce Law
     4. การจดทะเบียนโดเมนเนม Domain Name Registration
     5. การโปรโมทเว็บไซต์ Website Promotion



The Dimensions of E-Commerce

ประเภทของ E-Commerce
กลุ่มธุรกิจที่ค้ากำไร (Profits Organization)
     1. Business-to-Business (B2B)
     2. Business-to-Customer (B2C)
     3. Business-to-Business-to-Customer (B2B2C)
     4. Customer-to-Customer (C2C)
     5. Customer-to-Business (C2B)
     6. Mobile Commerce

ประเภทของ E-Commerce
กลุ่มธุรกิจที่ไม่ค้ากำไร (Non-Profit Organization)
     1. Intrabusiness (Organization) E-Commerce
     2. Business-to-Employee (B2E)
     3. Government-to-Citizen (G2C)
     4. Collaborative Commerce (C-Commerce)
     5. Exchange-to-Exchange (E2E)
     6. E-Learning

E-Commerce Business Model
แบบจำลองทางธุรกิจหมายถึง
     วิธีการดำเนินการทางธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้ อันจะทำให้บริษัทอยู่ต่อไปได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงกิจกรรมที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Add) ให้กับสินค้าและบริการวิธีการที่องค์กรคิดค้นขึ้นมาเพื่อประยุกต์ใช้ทรัพยากรขององค์กรอย่างเต็มที่ อันจะก่อให้เกิดผลกำไรสูงสุดและเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ

ข้อดีและข้อเสียของ E-Commerce
ข้อดี
     1.สามารถเปิดดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
     2.สามารถดำเนินการค้าขายได้อย่างอิสระทั่วโลก
     3.ใช้ต้นทุนในการลงทุนต่ำ
     4.ไม่ต้องเสียค่าเดินทางในระหว่างการดำเนินการ
     5.ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์ และยังสามารถประชาสัมพันธ์ในครั้งเดียวแต่ไปได้ทั่วโลก
     6.สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ใช้บริการอินเทอร์เนตได้ง่าย
     7.ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย
     8.ไม่จำเป็นต้องเปิดเป็นร้านขายสินค้าจริงๆ
ข้อเสีย
     1.ต้องมีระบบการรักษาความปลอดภัยของระบบที่มีประสิทธิภาพ
     2.ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการอินเทอร์เนตได้
     3.ขาดความเชื่อมั่นในเรื่องการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต
     4.ขาดกฎหมายรองรับในเรื่องการดำเนินการธุรกิจขายสินค้าแบบออนไลน์
     5.การดำเนินการทางด้านภาษียังไม่ชัดเจน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น